[ NC BeeCris ] - Hunter's Poison


Special end from Hunter's Poison
Yours
(Bee x Cris)






เพลงประกอบ
A Thousand Years - BILLbilly01 ft. Pla Suchaya





นกน้อยพากันบินกลับรัง  ผ่านกลุ่มเมฆขาวขอบขลิบทอง  สีเหลืองอ่อนและแสดเสมือนจิตรกรลงพู่กันแต่งแต้มบนผืนฟ้า  แก้วตาสีนิลประกายมองภาพท้องฟ้ายามเย็นที่อาบด้วยแสงอาทิตย์อันอบอุ่น  มันเป็นช่วงเวลาของท้องฟ้าที่ศิรินชอบมากกว่าเวลาไหนๆ  ชอบมากกว่ายามกลางคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวเสียอีก

“บีคิดถึงคริสมั้ย”  ศิรินถาม  ตั้งแต่ที่เจอกันที่สถานีรถไฟทั้งคู่ต่างก็เสียน้ำตาไปมาก  ศิรินไม่บอกน้ำทิพย์ว่าเธอหายไปไหน  หรือบอกว่าทำไมเธอเพิ่งกลับมาตอนนี้  สาวตัวเล็กเอาแต่ยิ้มจนตาปิดด้วยความดีใจที่ได้พบใบหน้าสวยคมที่เธอคิดถึงสุดหัวใจอีกครั้งหนึ่ง  พวกเธอสวมกอดกันทั้งน้ำตา  จนมาถึงตอนนี้น้ำทิพย์และศิรินก็ยังคงสะอื้นฮัก  พวกเธอจูงมือกันขึ้นมาบนดาดฟ้าของหอพักนักเรียน  ที่เดิมที่พวกเธอเคยนอนเล่นด้วยกันเป็นประจำเมื่อครั้งยังเยาว์วัย

“ถามอะไรอย่างนั้นล่ะ  บีก็ต้องคิดถึงคริสสิ  คิดถึงจนจะบ้า  คิดถึงมาก...จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!  น้ำทิพย์สลัดมือที่เกาะกุมมือของเธอออก  ริมฝีปากบางบูดเป็นเป็ด  เธอเดินไปที่ระเบียงดาดฟ้า  สองแขนเท้ากำแพงหินที่สูงระดับเอว

ศิรินหัวเราะกับพฤติกรรมที่เรียกว่า งอน เบาๆของนางพญาผึ้ง  ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้มีโอกาสเห็นบ่อยนัก 

แขนขาวผ่องสอดผ่านเอวบางของสาวผิวแทน  พร้อมกับใบหน้าใสที่วางคางมนบนไหล่   

“คริสก็แค่ถาม...เผื่อว่าบีจะมีคนอื่นให้คิดถึงไปแล้วไง”  

“คริส!!”  น้ำทิพย์หันขวับมาหาคนตัวเล็กทางด้านหลัง  ริมฝีปากเบะออกอีกครั้ง  “ครั้งสุดท้าย..ตอนนั้นน่ะ...คริสยังคิดว่าบีจะสามารถคิดถึงใครนอกจากคริสได้งั้นหรอ”

ดวงตาเล็กโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว  เธอเขย่งปลายเท้า  ฉวยโอกาสหอมแก้มนวลของคนขี้โมโหในตอนที่หล่อนหันมา

“คริสก็แค่แหย่บีเล่นเอง...ไม่โกรธนะ”

น้ำทิพย์โกรธคนหน้าใสไม่ลง  ไม่รู้ว่าศิรินไปเอาความขี้แกล้งขี้แหย่นี่มาจากไหน...หรือบางทีหล่อนอาจจะเอามาจากเธอ?  โถ่ถัง  น้ำทิพย์

หน้าลูกหมาง้อด้วยตาปริบๆกับดวงหน้าใสซื่อนั่น...ทำเอาน้ำทิพย์ต้องยอมคลายปากเป็ด  เธอหันมาเผชิญหน้ากับอีกคนเต็มตัว  รวบร่างเล็กไว้แนบอก

“ทำไมถึงจากบีไป...”  เธอวางหน้าผากลงบนไหล่ขาว  เธอไม่เข้าใจ  ตลอดเวลาที่ผ่าน  ถ้าคริสยังมีชีวิตอยู่  ทำไมหล่อนถึงเลือกเดินจากเธอไป

ศิรินลูบเรือนผมของคนตัวสูงที่โน้มตัวโอบกอดเธออยู่  หยาดน้ำตาของหล่อนร่วงกระทบไหล่ของเธอ

“บีขี้แย...เพิ่งจะหยุดร้องไห้ขี้มูกโป่ง  นี่จะร้องไห้อีกแล้วหรอ..”

“ตอบคำถามบี...” 

ศิรินชะงัก  รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้า  และดวงตาที่เปล่งประกายดั่งแสงตะวันกลายเป็นถูกบดบังด้วยม่านหมอก

“.....ก็ได้” 

น้ำทิพย์ผละออกจากศิริน  จับหัวไหล่ของหล่อน  พยายามที่จะสบตาแต่คนตัวเล็กกลับก้มหน้า

ศิรินรู้ดี  รู้ดีว่าน้ำทิพย์เคยพูดว่า  เกลียดการเสียสละที่เห็นแก่ตัว’  เธอจึงถ่วงเวลา  ไม่อยากบอกความจริงไป  แต่เธอคงยื้อต่อไปไม่ได้

“เช้าวันนั้น...คริสตื่นก่อนบี  คริสยังอยู่ที่นั่น  ในห้องนั้น  ไม่ได้หายไปไหน  แต่ว่า...ร่างกายของคริสอยู่ในสภาพชรา  เหมือนคืนก่อนหน้านั้น”  ศิรินเอ่ยเสียงแผ่ว  ค่อยๆเงยหน้าสบตาน้ำทิพย์  “ตอนที่คริสถามบีว่า  ถ้าเกิดว่าคริสเป็นยายแก่ตลอดไปล่ะ  บีจะทำยังไง  บีจำได้มั้ยว่าบีตอบคริสว่าอะไร”

“...บีจะดูแลคริส”  น้ำทิพย์จำมันได้  แน่นอน  เพราะถ้าหากวันนั้นเป็นวันนี้  เธอก็จะเลือกตอบเช่นเดิม

 “ใช่..”  ศิรินคลี่ยิ้มอ่อนโยน  แววตาเปี่ยมไปด้วยความซึ้งใจและสุขใจขณะที่เห็นความจริงใจฉายชัดในแก้วตาของคนตัวสูง  “เพราะอย่างนั้น  คริสถึงได้จากบีไป”

น้ำทิพย์ขมวดคิ้ว

“หมายความว่า  คริสไม่อยากให้บีดูแล..ไม่อยากอยู่กับบีหรอ..”

“ไม่ใช่..  คริสอยากอยู่กับบี  อยากให้บีดูแล  แต่ว่าคริสน่ะ..ไม่อยากให้บีเสียเวลาทั้งชีวิตดูแลยายแก่ๆคนนึงหรอกนะ”  ศิรินเอ่ยความจริงออกไป  ในวันนั้น...เธอตัดสินใจเดินออกจากห้องของน้ำทิพย์  และเดินออกจากชีวิตของน้ำทิพย์  เพราะไม่อยากจะเป็นตัวถ่วง  ที่ฉกชิงความสุขในวัยสาวของน้ำทิพย์  ในขณะที่เธอเป็นเพียงผู้หญิงแก่คนหนึ่ง  ที่ไม่มีแรงแม้จะเดินไปทำธุระส่วนตัวของตน....หัวใจของเธอแตกสลาย...แต่...


เธอไม่อยากเป็นสิ่งสิ่งนั้น  ในชีวิตของบี...


เธอไม่อาจทนเห็นบีคอยดูแลเธอเหมือนกับหลานเลี้ยงยาย  และจมอยู่ในความทุกข์ขณะที่เห็นเธออยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้..


ดังนั้น...เธอจึงเลือกที่จะไป...


น้ำทิพย์ตกตะลึงเมื่อได้ยินความจริงนั้น  เสียงของศิรินในคืนนั้น  ก่อนที่เธอจะลืมตาตื่นจากห้วงนิทรา

บี...คริสรักบีนะ


นั่นอาจเป็นคำพูดบอกลาสุดท้ายของคนตัวเล็ก  ก่อนที่หล่อนจะเลือกเดินออกจากห้องไป...


“อีกแล้วหรอ...”  น้ำทิพย์เปล่งเสียงตัดพ้อแผ่วเบา  “แปลว่า..คริสตัดสินใจทำร้ายตัวเองเพื่อบีอีกแล้ว...ทำไม..ทำไมกันคริส...”  น้ำใสๆเอ่อท่วมนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของนางแบบสาว  “คริสรู้มั้ย...ว่าบีไม่อยาก...บีไม่อยากเป็นคนที่ทำให้คริสตัดสินใจทำร้ายตัวเอง...บีไม่เคยอยากให้คริสทำแบบนั้น...ไม่อยากเลย..”

น้ำตาหลั่งออกจากหัวใจที่ถูกบีบรัด  ขอบตาร้อนผ่าว  ศิรินสวมกอดร่างสูง  มือหนึ่งลูบไล้ใบหน้าของหล่อน  นางพญาที่แสนสง่ายามร้องไห้ก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง...ที่มีหัวใจ  และเจ็บปวดเป็น

เจ็บเหลือเกิน...

ศิรินเจ็บแทนความรู้สึกของน้ำทิพย์  เธอรู้ว่าบีไม่อยาก...เธอเองก็ไม่เคยอยากจะจากบีไปเลยสักครั้ง...แต่หัวใจของเธอขอเลือกที่จะให้ทั้งหล่อนและเธอเจ็บปวดดีกว่าให้เธอเป็นฝ่ายได้รับความสุขบนความทุกข์ของบี...

“เพราะ...”  ศิรินประคองใบหน้าของน้ำทิพย์ให้โน้มลงมาใกล้  ค่อยๆประทับริมฝีปากลงบนเชอร์รี่หอม  รสชาติของผลไม้และริมฝีปากที่เธอชอบมากที่สุด

ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ประทับลงมา  ให้ความรู้สึกมากมายเกินพรรณนาได้  น้ำทิพย์รู้สึกถึงความหวาน...ความขม...ความคิดถึง...ความเจ็บปวด...และความรัก...

น้ำทิพย์จุมพิตตอบกลับกลีบปากกลิ่นลิลลี่อย่างอ่อนโยน  น้ำตาอีกสายไหลลงจากขอบตา  ความรู้สึกทั้งหมดที่มีระหว่างสองดวงใจถูกถ่ายทอดผ่านการสัมผัสของริมฝีปาก  มันทั้งเจ็บปวดแต่สุขใจ...มันช่างปวดร้าวแต่งดงาม

ทุกการกระทำของศิรินถูกบังคับให้ไปตามทางที่ศิรินจ่อมีดใส่หัวใจและสั่งให้มันเดิน  หล่อนไม่เคยอยากให้ตนเองเป็นคนที่ทำร้ายน้ำทิพย์  เช่นเดียวกับที่น้ำทิพย์ไม่อยากให้หล่อนทำร้ายตัวเอง...แม้ว่าศิรินจะต้องทนเจ็บปวดกับความรู้สึกที่ตามมามากแค่ไหนก็ตาม...ศิรินยอม 


ก็แค่...ไม่อยากเป็น...คนที่ไร้ประโยชน์...


ก็แค่...อยาก..ให้บีมีความสุข...มีคนดูแล...แม้คนคนนั้นจะไม่ใช่เธอ..


ความรู้สึกล้นหลามจากดวงใจน้อยๆของศิรินถาโถมอยู่ในห้วงอารมณ์หอมหวานของรสจูบ  ทำเอาน้ำทิพย์ตัวสั่นสะท้าน 

ศิรินเปิดเปลือกตาและได้เห็นบางสิ่งในดวงตาของน้ำทิพย์  เธอเห็นเงาของผู้หญิงเพียงคนเดียวในแก้วตานั้น  และรับรู้ถึงความรู้สึกผ่านรสจูบของหล่อนเช่นกัน  หยดน้ำใสๆไหลลงจากดวงตาคู่เล็ก  เจ็บปวด...และมีความสุขเหลือเกิน...ที่จนถึงวันนี้....น้ำทิพย์ก็ยังคงรักเพียงแต่เธอ...


ที่ผ่านมา...เธอเอาแต่ทำให้บีเจ็บปวดมากเลยใช่มั้ย...


“คริส..ขอโทษ..”  เธอปล่อยโฮออกมา  เงาสะท้อนของผู้หญิงเพียงคนเดียวในดวงตาและดวงใจของน้ำทิพย์คือเธอ  “คริสมันเห็นแก่ตัว...ที่สุด..”

น้ำทิพย์ไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกอย่างไร  จริงอยู่  ศิรินเห็นแก่ตัวที่การตัดสินใจเดินจากไปหลายครั้งหลายคราของหล่อนทำให้ทั้งเธอและหล่อนต้องทนรับความทรมานมากกว่าที่มันควรจะเป็น ...แต่ทั้งหมด  เจตนาของศิริน  มีเพียงแต่ความหวังดี  ที่ปรารถนาให้เธอมีความสุข  หลุดพ้นจากความทุกข์ที่ตนเป็นสาเหตุ

น้ำทิพย์กดศีรษะของศิรินแนบกับใบหน้าของตนมากขึ้น  เธอเคลื่อนไปจุมพิตพวงแก้มขาวที่มีหยดน้ำตาประทับอยู่  ตามด้วยหน้าผาก  ความรู้สึกสงสารและรักนกน้อยตัวนี้มีมากจนล้นหัวใจ...

“คริส...”  ศิรินเอ่ย  “คริสอยากคืน..ของของบี”

น้ำทิพย์ชะงัก

“ได้โปรด...ให้คริสคืนมันให้บีสักที  คริสไม่อยากเป็นขโมยอีกแล้ว”

หัวใจของน้ำทิพย์บีบรัดจนปวดระงม  เธอกัดฟัน  รู้สึกโกรธตัวเองมากขึ้นเป็นทวีคูณ

“คริสไม่เคยเป็นขโมย...บีขอโทษ  บีผิดเองที่เคยว่าคริสแบบนั้น  ที่เข้าใจคริสผิดมาตลอด”

ศิรินยิ้มอย่างอ่อนโยน

“บีไม่ผิดเลย...บีแค่ไม่เข้าใจ  บีแค่ไม่รู้เรื่องทั้งหมด...คริสไม่เคยโทษบี  แต่คริสเป็นขโมยจริงๆ...แม้ว่าคริสจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้น”  น้ำเสียงของศิรินเต็มไปด้วยความรู้สึกขมขื่นและรู้สึกผิด  ขมขื่น...ที่รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่คนที่เธอรักคิดว่าเธอตั้งใจขโมยมันไป  แต่เธอรู้ดี...รู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์โกรธบีได้ทั้งหมด  เพราะสิ่งที่เธอทำ  ก็ไม่ต่างจากการเป็นขโมยจริงๆ

และศิรินรู้สึกผิด...ทั้งกับตัวเองและกับบี  สิ่งที่อยู่กับเธอ...มันเป็นของของบี  เป็นสิทธิ์พิเศษของบี  ไม่ว่าเธอจะอยากได้มันมากแค่ไหน—ถึงแม้จะไม่เคยคิดแย่งจากคนตรงหน้า—มันควรเป็นของบี  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา  เธอไม่สมควรมีโอกาสได้ใช้พลังจากรอยสักเพชฌฆาตโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่แท้จริงของมัน  

“เพราะอย่างนั้น...ขอให้คริสรู้สึกผิดน้อยลง  ด้วยการคืนมันให้บีได้มั้ย”

น้ำทิพย์กลืนคำปฏิเสธลงคอไป  เธอคิดว่าหากเธอคิดเรื่องจะเอารอยสักคืนจากคริส  อีกคนคงจะเกิดความคุกรุ่นในใจและอาจจะหนีจากเธอไปอีกครั้งก็เป็นได้  แต่ศิรินกลับขอให้เธอนำมันคืนไป  และยอมรับแต่โดยดีว่าหล่อนเป็นขโมยจริงๆ

น้ำทิพย์กัดฟัน  น้ำตาร่วงเผาะลงบนฝ่ามือที่กุมมืออีกคนไว้  เธอพยักหน้าตกลง


เธอควรจะดีใจ...มากกว่านี้  ที่จับตัวหัวขโมยได้  และกำลังจะได้รอยสักเพชฌฆาตคืน...แต่กลับเจ็บ...และที่เจ็บขนาดนี้  ก็เพราะว่าที่หล่อนเอามันไปจากเธอในวันนั้น...เพราะหล่อนรักเธอ...ไม่ใช่เพราะอยากขโมยมันไปจากเธอ...


และวันนี้...หล่อนกำลังจะคืนเธอ  ด้วยความรักเช่นกัน


ศิรินพรมจุมพิตลงบนลำคอของคนตัวสูงอย่างอ่อนโยน  มือหนึ่งกุมมือของน้ำทิพย์ไว้  และอีกมือปลดเปลื้องอาภรณ์ของตน


สายลมที่ปะทะผิวพรรณเนียนละเอียดไม่ได้ทำให้เจ้าของร่างรู้สึกหนาวเมื่อเธอหยิบมือที่เธอกุมอยู่ให้วางลงบนปทุมถันงาม...


สายลมที่ปะทะผิวผ่องไม่ได้ทำให้หล่อนสั่นสะท้านได้เท่ากับสัมผัสและสายตาที่นางพญาคนงามกำลังมอบให้...


ศิรินปล่อยเสียงครางแผ่วเบาเมื่อน้ำทิพย์สัมผัสร่างกายของเธออย่างเบามือ  จากเนินอกอวบอิ่ม  ไปที่ยอดอกสีชมพู  ลงมาที่เอวคอดกิ่ว  สะโพกงามงอน...

น้ำทิพย์ประทับจุมพิตลงบนความงามของดอกไม้  ค่อยๆโลมเลียด้วยความรักความถนอม 

ศิรินคราง  สูดหายใจเข้าลึก  จับกลุ่มผมของน้ำทิพย์เป็นที่ระบายความสุขสม  เธอทิ้งศีรษะไปทางด้านหลัง  ปล่อยให้หัวใจเต้นระรัวขึ้นเรื่อยๆ  จนมันเต้นแรง...อย่างที่เธออยากให้มันเป็น

เธอเปิดเปลือกตา  มองท้องฟ้าที่อยู่ตรงหน้า  ไกลออกไป...


น้ำทิพย์เป็นท้องฟ้าของเธอ  และกำลังโอบอุ้มนกน้อยทยานสู่ท้องฟ้าไปไกลแสนไกล...
.
.

.

ศิรินนอนตะแคงข้าง  พิงลำตัวของน้ำทิพย์  ทั้งสองมองดูดวงตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้า

“ก่อนหน้านี้  คริสไปอยู่ที่ไหนมาคะ”  น้ำทิพย์ถาม  นิ้วเรียวม้วนเส้นผมสีดำสนิทของศิริน

“...หลังจากที่คริสไป...คริสไปอยู่ที่ชายป่า  ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่”

“อะไรนะคะ!?  ทำไมถึงไปอยู่ในป่าอย่างนั้นล่ะ  ถ้าเกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะทำยังไง  ใครจะมาช่วยคริสได้”  น้ำทิพย์รู้สึกเหลือเชื่อกับความงี่เง่าของศิรินอีกแล้ว  คนแก่อายุมากขนาดนั้นไม่ควรอยู่ตามลำพัง  หล่อนไม่รู้หรือไง

ศิรินรีบเอ่ยต่อ

“นอกจากจะใกล้ป่าแล้ว  ยังใกล้ตลาดด้วยนะ  ใกล้ๆสถานีรถไฟนั่นล่ะ” 

น้ำทิพย์จ้องศิรินอย่างไม่ไว้ใจ  โกหกให้เธอสบายใจรึเปล่าเนี่ย

“ที่คริสเลือกอยู่ตรงนั้นน่ะ...เพราะว่าคริสอยากจะอยู่ใกล้ๆบี...”  ประโยคเรียบๆของคนเสียงแหบทำเอาน้ำทิพย์ลืมหายใจ  “ถ้าวันหนึ่งคริสจะต้องแก่ตายไปอย่างสงบ  คริสอยากจะเห็นบีก่อนที่คริสจะไป”


บ้าจริง...น้ำตานี่มันเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว



น้ำทิพย์สวมรัดวงแขนรอบคนตัวเล็กแน่น



“บีรู้มั้ย...ตอนแรกน่ะ  คริสคิดว่าคริสคงไม่มีโอกาสได้กลับมาในชีวิตบีอีกแล้ว  คริสเกือบจะตายอย่างสงบเพียงลำพัง...”  ศิรินลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของน้ำทิพย์เบาๆ  “แต่ที่คริสกลับมาได้  และกลับมาอายุเท่านี้อีกครั้ง...ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณบีน่ะแหละ”

“ขอบคุณบี..?  คริสหมายความว่ายังไง”  น้ำทิพย์รู้สึกฉงน  เธอมองศิรินอย่างไม่เข้าใจ

“ตอนที่คริสรู้สึกหมดแรง  รู้สึกเหมือนกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้... คริสนอนหลับอยู่บนเตียง  ฝันว่ากำลังเดินอยู่ในอุโมงค์มืด  และได้ยินเสียงน้ำตก  บางอย่าง...ทำให้คริสรู้ว่าคริสกำลังเดินทางไปสู่ปากทางนรก...กำลังจะได้รับการพิพากษา”

“...”

“แต่แล้วกลับมีชายคนหนึ่งมาหยุดคริสไว้  เขาบอกว่าเขาติดค้างบีที่เคยช่วยลูกของเขา  และบียังติดค้างเขาอยู่เรื่องหัวใจของบี”

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย  น้ำทิพย์คลี่ยิ้มออกมา  ก่อนจะหลุดหัวเราะทั้งน้ำตา  มันเป็นตลกร้ายที่แฝงด้วยความใจดีของเขาขอบคุณมากนะคะท่านจ้าว

“...หลังจากนั้น  คริสก็ตื่นขึ้นมา  และร่างกายก็ค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนเดิม”  ศิรินเล่าต่อ  เธอใช้นิ้วหัวแม่มือลูบกลีบปากนุ่มละมุนที่ประดับด้วยรอยยิ้มของน้ำทิพย์  “พอคริสแน่ใจว่าคริสกลับมาอายุเท่าเดิมอีกครั้ง  คริสก็รีบวิ่งมาหาบีเลย”  เธอโน้มศีรษะเข้าหาอีกคน  แลกเปลี่ยนความหวานของดอกลิลลี่กับเชอร์รี่อีกครั้ง  

“คุณคนนั้นเค้าเป็นใครหรอบี”  ศิรินถามหลังถอนจูบ

น้ำทิพย์หัวเราะ  บอกกับคนตัวเล็กว่าไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง  ศิรินอมยิ้มก่อนเคลื่อนนิ้วซุกซนลงไปที่ท่อนล่างของนางพญา  เธอกดนิ้ว  นางพญาหันมามองค้อนใส่คนหน้าอ่อนเยาว์

“บอกตอนนี้ไม่ได้หรอ”  ศิรินถาม

“ไม่ด้ายยยยย”  น้ำทิพย์แกล้งอุบอิบไม่ยอมตอบ

ศิรินขยี้นิ้วลงแรงกว่าเดิม

“ฮะ...อ๊าาา  คริสคะ!”  น้ำทิพย์ดุ  “อึอื๊อออ”  แต่ศิรินไม่ยอมหยุด  แต่กลับลงแรงขยี้มากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่ปราณี  พลางหัวเราะคิกคัก

น้ำทิพย์เสียวและทนความน่าหมั่นเขี้ยวของอีกคนไม่ไหว  เธอกดร่างน้อยให้นอนหงายกับพื้น  ก่อนกระโดดตะครุบร่างของหล่อน

ศิรินค่อยๆหยุดเสียงหัวเราะใส  สบตาปริบๆกับนางพญา

น้ำทิพย์ลูบไล้ต้นขาขาวของคนตัวเล็กไปมา  ก่อนจับมันพาดขึ้นบนสะโพกทางด้านซ้ายของเธอ  และพาดเรียวขาขวาของตนทับสะโพกของหล่อน

ศิรินแตะนิ้วชี้ที่สันจมูกที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำทิพย์  เธอรักสันจมูกนี้...  

ขยับลงมาที่สันกราม  ตรงนี้ก็รัก...

ลงมาที่หน้าอกแบนๆ  แต่แบนยังไงเธอก็รัก...

            เธอเลื่อนมือไปสัมผัสรอยสักเพชฌฆาตที่ขาอ่อนของหล่อน  รู้สึกภูมิใจ...ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นคนช่วยให้หล่อนตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินนี้  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากวันนั้น  ไม่ว่าจะดีหรือไม่...ศิรินไม่เคยเสียใจที่บีตัดสินใจเป็นเพชฌฆาต


เพราะยังไง...บีก็ยังเป็นบี...


และเธอก็ยังคงรักบีเสมอไม่เปลี่ยนแปลง


น้ำทิพย์เริ่มสะบัดสะโพกเบาๆ  กัดริมฝีปากอย่างเซ็กซี่ขณะที่ได้ยินเสียงร้องครางที่ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆของศิริน  ศิรินเองก็เคลื่อนไหวร่างกายตอบรับความต้องการของอีกคน  เสียดสีเกสรงามเข้าด้วยกัน  แลกเปลี่ยนความสุขสมและอารมณ์วาบหวาม... 

ทั้งสองมอบจุมพิตให้แก่กันขณะที่ประสานจังหวะของร่างกาย  เสียงครวญครางของทั้งคู่ดังก้องผืนนภาเหนือดาดฟ้าที่เป็นเสมือนอาณาจักรเล็กๆของพวกเธอ 

ศิรินบิดกายเร่า  สองมือเกาะเกี่ยวลำคอระหงส์ของน้ำทิพย์เป็นที่ยึดเหนี่ยว  ศีรษะผงกตามแรงผลักดันของสาวผิวแทนที่กำลังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างยั่วยวนอยู่เหนือร่าง  เร่งสะบัดสะโพกใส่สะโพกของเธออย่างรัวเร็ว  รุนแรง  โหมพัดพายุแห่งความแสบเสียว  สุขสันต์ให้จนนกน้อยบินมาถึงสวรรค์ 

ร่างกายของคนผิวใสกระตุกเกร็งอย่างหนัก  เธอร้องเรียกชื่อคนรักอย่างบ้าคลั่ง  น้ำทิพย์เองก็ทั้งกรีดร้องทั้งหอบหายใจ  ยังคงเคลื่อนไหวร่างกายไม่หยุดหย่อน  เกสรของกุหลาบงามเสียดสีจนน้ำหวานของกุหลาบป่าและลิลลี่หลั่งไหลออกมาผสมผสานกัน

น้ำทิพย์ทิ้งร่างที่เต็มไปด้วยเหงื่อลงบนอกนุ่มของศิริน  เธอดูดดื่มมันขณะที่ศิรินหอบหายใจรุนแรงราวกับขาดออกซิเจนมานาน  น้ำทิพย์ปลดริมฝีปากจากยอดปทุมถันและมอบออกซิเจนให้ศิริน  คนตัวเล็กตอบรับอีกคนด้วยการส่งลิ้นร้อนเข้าเกี่ยวพันด้วยความรักใคร่...

น้ำทิพย์ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่คาใจ  เธอเชยคางมนของศิรินและถามอย่างจริงจัง

“คริสคะ...บีมีคำถามที่อยากรู้มานานแล้ว...คริสตอบบีได้มั้ย”

“...ได้”  ศิรินผงกศีรษะ  ตอนนี้ระหว่างเธอกับหล่อน  ไม่มีอะไรที่เป็นความลับ  หรือติดค้างคาใจกันอีก  เธอพร้อมที่จะเล่าทุกอย่างที่น้ำทิพย์ต้องการจะรู้ 

“ทำไม...”  น้ำทิพย์ไม่รู้ว่าควรจะถามยังไงดี  แต่ก็ถามออกไป  “รอยสักสีขาวนี่...”  เธอชี้ที่หน้าท้องของหญิงสาวใต้ร่าง  “ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา...ทำไมมันถึงยังอยู่กับคริส”  ประโยคสุดท้ายแผ่วเบา

ศิรินก้มลงมองที่รอยประทับรูปงูบนหน้าท้อง  ก่อนเงยหน้ามองน้ำทิพย์  เธอยิ้ม

“ก็คริสตั้งใจจะเก็บมันไว้เพื่อคืนบีสักวัน...ไม่มีวันให้ใครนอกจากบี”

ความอบอุ่นประหนึ่งสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิและเข้าโอบล้อมรอบดวงใจของนางพญา  ผู้หญิงคนนี้...แม้ว่าจะรู้ว่าเราอาจไม่มีวันคืนดีกัน  เราอาจไม่มีวันได้นั่งอยู่ข้างกันแบบวันนี้...แต่หล่อนก็ยังคงมีเพียงเธอเสมอ...ทั้งกาย...และใจ...


ศิรินทำไมถึงได้ทั้งน่ารักและโง่เง่าขนาดนี้...



“ศิรินคนโง่!”  



นี่คิดจะรอบีคนเดียวทั้งชีวิตเลยใช่มั้ย...


น้ำทิพย์กดจูบลงบนกลีบปากของศิรินอีกครั้งอย่างหนักหน่วงบ้าคลั่ง  หล่อนคิดจะทำให้เธอโมโหทุกครั้งที่พูดคำหวานออกมาเลยหรือยังไงกันนะ! น้ำทิพย์คิดอย่างไม่พอใจ  แต่ทว่าในใจกลับมีความสุขอย่างท่วมท้น  

เธอบอกกับตนเอง...เธอจะต้องทำตัวให้สมกับที่หล่อนให้ค่าเธอไว้  จะเป็นคนรักที่ศิรินภูมิใจ  จะไม่มีวันทำให้หล่อนเจ็บช้ำน้ำใจอีก...ต่อจากนี้จะมีเพียง รัก...รัก...และรัก...


...จะถนอมดอกลิลลี่ที่แสนบริสุทธิ์นี้ไว้แนบกาย...



ต่อจากนี้...จะไม่มีใคร  หรืออะไร  มาพรากพวกเธอไปจากกันอีกแล้ว...


เธอทั้งคู่จะเป็นของกันและกัน...และจะดูแลกัน...ดั่งเช่นปักษาน้อยและนภากว้างใหญ่...ที่อยู่เหนือเราสองในตอนนี้...


ตลอดไป...




_____________________________________
อ่านฟิคเรื่องนี้ >>> Hunter's Poison

THE DAG 
#ฟิคเพชฌฆาต